เมื่อคืนที่ผ่านมาหลายคนคงอดหลับอดนอนรอชมการเปิดตัว Samsung Galaxy S5 และจากภาพและสเปคที่เปิดเผยต่อสาธารณชนก็แทบจะเป็นเรื่องปกติที่จะมีทั้งเสียงชื่นชมและคำสบประมาท ซึ่งจากคำกล่าวของผู้บริหารของซัมซุงบนเวทีMWC 2014 หรือ Mobile World Congress ยืนยันว่า Galaxy S5 เป็นเครื่องมือที่ผู้บริโภคที่กำลังมองหาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนพวกเขาต่อการปรับปรุงชีวิตประจำวัน Galaxy S5 แสดงให้เห็นถึงการออกแบบที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่จำเป็นและมีประโยชน์ ซึ่งซัมซุงมุ่งเน้นไปที่การส่งมอบมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในตลาดวันนี้ผ่านนวัตกรรมที่เป็นแรงบันดาลใจ
จากการสังเกตการเปิดตัว Galaxy S5 พบว่าซัมซุงตั้งใจแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของเครื่องมือรุ่นใหม่ที่เกิดจากความต้องการของผู้บริโภค สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันได้ในทุกๆสถานการณ์ ซึ่งซัมซุงค่อนข้างเอาใจใส่ไปกับการดูแลสุขภาพถึงขนาดใส่เซนเซอร์ที่เรียกว่า Heart Rate เพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจมาไว้ใต้กล้องหลัง พร้อมการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สวมใส่รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Gear Fit สำหรับเก็บข้อมูลสุขภาพอีกด้วย
คุณสมบัติต่อมาที่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับคนรักการถ่ายภาพคือกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มากับเทคโนโลยีออโต้โฟกัสที่ใช้เวลาสั้นๆเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น ประกอบกับโหมดที่เรียกว่า Selective Focus ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพในลักษณะชัดตื้นได้ รวมทั้งคุณสมบัติการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด Ultra HD แต่จากความสามารถนี้ผู้ใช้อาจต้องทำใจยอมรับว่าแม้วีดีโอจะออกมาชัดแจ๋วเห็นสิว ก็ต้องแลกมาด้วยจำนวนพื้นที่เก็บข้อมูลที่เสียไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าไฟล์วีดีโอ Ultra HD ที่คุณบันทึกไปนั้นใช้เวลาไปเท่าไหร่ ยิ่งบันทึกเวลานาน ไฟล์ก็ยิ่งมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย อย่างไรก็ดีซัมซุงออกตัวว่าจะเป็นครั้งแรกในโหมดการบันทึกวีดีโอที่รองรับการใช้ HDR ได้
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมาเข้ากับยุคสมัยนี้คือ Finger Scanner หรือเซนเซอร์สแกนลายนิ้วที่ปุ่มโฮม ช่วยในเรื่องการชำระเงินผ่านมือถือและใช้ร่วมกับ Private Mode เพื่อปกป้องไฟล์หรือรูปภาพที่ผู้บริโภคไม่ต้องการให้ใครเห็นได้ ซึ่งสังเกตว่าซัมซุงตั้งใจให้สแกนลายนิ้วสามารถป้องกันเฉพาะไฟล์ที่สำคัญจริงๆ โดยจะแตกต่างไปจาก iPhone 5s ที่ใช้สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคหน้าจอเพื่อป้องกันการเข้าใช้งานทั้งหมด
คุณสมบัติต่อมาคือความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP67 ซึ่งซัมซุงเห็นว่าในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอาจต้องเผชิญสถานการณ์ที่ทำให้มือถือต้องเปียกน้ำโดยไม่ตั้งใจ ดังนั้น Galaxy S5 จึงเป็นเครื่องมืออีกหนึ่งรุ่นที่กันน้ำกันฝุ่นได้ แต่ผู้บริหารของซัมซุงได้ออกมาพูดดักผู้บริโภคก่อนเลยว่า “อย่าให้มันไปอยู่ใต้น้ำ” เพราะฉะนั้นจึงแปลว่า Galaxy S5 ป้องกันน้ำได้จริงแต่ไม่อาจลงไปจุ่มน้ำได้เหมือน Sony Xperia
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ส่วนตัวแล้วชอบอย่างยิ่งคือโหมด Ultra Power Saving ซึ่งมีประโยชน์มากกับชีวิตประจำวัน เนื่องจากการใช้งานของผู้บริโภคส่วนใหญ่มีการเชื่อมต่อ 3G อยู่ตลอดเวลา ส่งผลต่อแบตเตอรี่ที่หมดเร็ว และหากอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้มือถือเพื่อการติดต่อฉุกเฉินแต่แบตหมด มือถือราคาแพงๆก็แทบจะหมดค่าไปโดยปริยาย แต่สำหรับ Ultra Power Saving จะปรับการใช้งานในขณะที่แบตเหลือ 10% โดยปรับหน้าจอให้เป็นขาวดำ และจำกัดการใช้งานเฉพาะในส่วนที่จำเป็น ได้แก่ โหมดโทรออก, การส่งข้อความ เป็นต้น แถมยังสามารถยืดชั่วโมงการใช้งานได้เพิ่มอีก 24 ชั่วโมงอีกด้วย
และมาถึงไฮไลท์สำคัญของ Galaxy S5 คือการเปลี่ยนดีไซน์ตัวเครื่อง ซึ่งข่าวลือก่อนหน้าที่จะมีการเปิดตัวมีหลายกระแสที่ออกมาบอกถึงการใช้ฝาหลังอะลูมิเนียมบ้าง หน้าจอโค้ง ไร้ขอบบ้าง และจากสิ่งที่ได้เห็นกันคือฝาหลังที่ยังใช้พลาสติกและมีลายฉลุเพิ่มขึ้นมา และส่วนอื่นๆของตัวเครื่อง Galaxy S5 ก็แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างไปจาก S4 นอกเสียจากหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น !!
ส่วนเป็นเพราะเหตุใดซัมซุงถึงเลือกการออกแบบเช่นนี้กับ Galaxy S5 ? คำตอบจริงๆคงไม่มีใครรู้ ซึ่งเชื่อว่าคอไอทีที่เห็นคงมีทั้งชอบและไม่ชอบ !! สรุปสุดท้ายกับการเปิดตัว Samsung Galaxy S5 ในความเห็นส่วนตัวรู้สึกว่า “ไม่ว้าว” อย่างที่ตั้งตารอ ส่วนใครจะเห็นต่างไปจากนี้ก็ไม่ว่ากันครับ แต่ที่แอดมินแอบคิดว่าบางทีซัมซุงอาจปล่อยทีเด็ดมาช่วงปลายปี ทั้งการเลือกใช้หน้าจอแบบยืดหยุ่นจริง หรือจะเป็นชิปเซ็ต 64 บิต ที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในแฟ็บเล็ตตัวพ่ออย่าง Galaxy Note 4 ก็เป็นได้
ภาพจาก TheVerge และ Samsung Tomorrow